วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2561

English Book Review3: 13 Reasons Why


English Book Review3: 13 Reasons Why

รีวิวหนังสือ: 13 บันทึกลับหัวใจสลาย 


(เนอร์สไม่ค่อยปลื้มชื่อไทยเลย อยากตั้งเองว่า 13 เหตุผลเพราะอะไร (. .) )


      สวัสดีค่า วันนี้เนอร์สได้มารีวิวหนังสือภาษาอังกฤษเล่มที่3 แล้วนะ ตื่นเต้นๆๆ555  เนอร์สจะมารีวิวหนังสือ 13 Reasons Why ของคุณ Jay Asher ค่ะ หลายคนอาจจะเคยได้ยินซีรีย์ชื่อนี้จากทางช่อง Netflix มาบ้าง ส่วนเนอร์สอ่านหนังสือจบ ยังดูซีรีย์ไม่จบค่ะ แต่ส่วนตัวคิดว่าดีมากๆ ทั้งคู่ 



     มาดูข้อมูลเบื้องต้นของหนังสือกันก่อนเลย

Title:           13 Reasons Why
ชื่อไทย:       13 บันทึกลับหัวใจสลาย
Author:       Jay Asher
Category:    Young Adult Fiction
Pages:         288

Price:          £7.99 / ฿350.-
Store:          บูธ Asia books @งานหนังสือ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์




เนอร์สได้ปกนี้มาค่ะ กลางเล่มมีภาพจากซีรีย์ให้หลายหน้ามาก ท้ายเล่มมีบทสัมภาษณ์ของนักเขียน ผู้กำกับ และนักแสดงให้อ่านด้วย แถมยังแจกเว็บช่วยเหลือด้านการแก้ปัญหาการฆ่าตัวตาย ล่วงละเมิดทางเพศ และการกลั่นแกล้งด้วยค่ะ คุ้มสุดๆเลย


Rate / คะแนนเนื้อหา : 10 / 10 !!!
Reason : *ส่วนที่เป็นสีแดงมีสปอยล์นะจ๊ะ*

      คะแนนสูงอีกแล้ววว แต่เนอร์สว่าเนื้อหาในเล่มเหมาะสมกับคะแนนนี้แล้วค่ะ เนื้อเรื่องโดยย่อก็คือ Clay ได้รับเทปที่ถูกส่งมาจาก Hannah เด็กสาวไฮสคูลที่เพิ่งฆ่าตัวตายไป ในเทปนั้นได้บอกเล่าถึง 13 สาเหตุที่เธอฆ่าตัวตาย โดยเธอกล่าวว่า ถ้าคุณกำลังฟัง แสดงว่าคุณก็เป็นหนึ่งในเหตุผล

    ประเด็นหลักของเรื่องนี้เนอร์สว่าอยู่ที่ปัญหาต่างๆ ระหว่างการเรียนมัธยมปลายหรือ High School ค่ะ ซึ่งเนอร์สคิดว่านี่เป็นไอเดียที่ดีนะ ไม่ค่อยมีนักเขียนคนไหนจับประเด็นเหล่านี้มาบอกเล่าผ่านตัวอักษรอย่างจริงจัง แต่คุณ Jay Asher กลับทำ แล้วก็ทำได้ดีเสียด้วย

    ปัญหาที่ Hannah เจอ มีตั้งแต่โดนคนที่ชอบหักหลัง เพื่อนในกลุ่มเลิกคบ  เพื่อนในโรงเรียนแอบตามถ่ายรูป โดนแกล้งทำดี โดนหลอก สารพัดอย่างเลยค่ะ 


บางคนอาจจะคิดว่าเว่อร์ไปหรือเปล่า มีเหตุการณ์แบบนี้จริงๆ เหรอ? 

 - ไม่เว่อร์ไปค่ะ และใช่ค่ะ มีเหตุการณ์แบบนี้จริงๆ แม้ที่เนอร์สเคยสัมผัสมาอาจจะซอฟต์กว่าในเรื่องเยอะ และยังมีอีกหลายอย่างที่เนอร์สไม่เคยเจอ แต่โรงเรียนมัธยมมีเรื่องแบบนี้จริงๆ 
    การกลั่นแกล้ง ใส่ร้าย นินทา และอินเทอร์เน็ตก็มีแต่ทำให้ทุกอย่างแย่ลง ความจริงถูกลบเลือน ข่าวลือกลับชัดเจน เหมือนที่ Hannah เจอมาตลอด 
     ที่น่ากลัวคือ ไม่มีใครกระตือรือร้นที่จะค้นหาความจริงหรือถามความจริงจากเจ้าตัวเลยค่ะ แม้แต่ Hannah เองก็เหนื่อยที่จะอธิบายหรือเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองแล้ว


ซีรีย์กับหนังสือต่างกันไหม? แล้วแบบไหนสนุกกว่ากัน?

  - เนอร์สยังดูซีรีย์ไม่จบนะคะ เท่าที่ดูก็รู้สึกว่าต่างกันพอประมาณ แต่ Main Idea หรือแก่นเรื่องยังอยู่ครบค่ะ มันเป็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี คือไม่ทำให้เสียอรรถรสในการชม แนะนำให้ทั้งอ่านทั้งดูเลยค่ะ ใครยังไม่มีเงินซื้อหนังสือ ก็หาซีรีย์ดูไปก่อนได้ค่ะ555555


     การเล่าเรื่องทำได้ดีนะคะ เป็นการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของ Clay Jensen ตัวเอกของเรื่อง ทำให้เราได้อ่านความรู้สึกของเขาที่มีต่อเหตุการณ์ต่างๆ ด้วย สำหรับเนอร์ส Clay เป็นคนดี เป็นคนประเภทเดียวกับนักเรียนธรรมดาหลายๆ คน คือไม่ใช่คนเลวร้าย แต่ก็ไม่ได้ดีเลิศถึงขนาดมีความกล้าที่จะพูดหรือหยุด เมื่อพบว่าเรื่องร้ายๆ กำลังเกิดขึ้นกับคนๆ หนึ่ง


     หนังสือเล่มนี้ให้อะไรกับเนอร์สเยอะมากเลยค่ะ เนอร์สชอบประโยคที่ว่า Everything affects everything  คือทุกๆ อย่างที่เราทำ มันส่งผลกระทบต่อทุกๆ อย่างเลย เวลาที่เราพูดหรือทำอะไรไม่ดีกับคนอื่น แม้มันจะเล็กน้อยหรือเรามองว่าแค่ล้อเล่น แต่เขาอาจจะเก็บไปนอนคิดทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้ เราไม่มีวันรู้ว่าสิ่งที่เราทำจะนำไปสู่อะไร


     ฝากหนังสือเล่มนี้ไว้ในอ้อมใจของทุกคนด้วยนะคะ


Please be kind to everyone around you. 
If you can't? Then be quiet.

อาจฟังดูแรง แต่เป็นความจริงค่ะ บางคำพูดถ้าพูดไปแล้วทำร้ายคนอื่น ก็ควรเก็บไว้จะดีกว่า




My Favourite Moment: Casette 5 Side A, Page 208-209


Hannah:     I couldn't believe it. Out of the blue, there you were.

Clay:          It was anything but out of the blue.
         'I don't know why but I think we need to talk'

Hannah:    And I agreed, with probably the dumbest smile plastered on my face.

Clay:         No. 
                The most Beautiful.



คะแนนความยากของภาษาที่ใช้: 3/10

Reason:
          ภาษาไม่ยากเลยยยย คุณผู้อ่านไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เล่มนี้ผู้ที่อยู่ระดับ Intermediate ขึ้นไปอ่านได้ฉลุยค่ะ ส่วน Beginner ก็น่าจะอ่านได้นะคะ อาจจะติดแสลงหรือสำนวนบ้าง แต่เสิร์ชหารับรองเจอแน่นอน หรือถ้าไม่เจอมาคอมเม้นถามเนอร์สได้เลยค่ะ555

         คุณ Dashner ว่าใช้ศัพท์ง่ายแล้ว คุณ Asher ง่ายกว่าค่ะ หน้านึงเนอร์สมีคำที่ไม่รู้ประมาณ 2-3 คำเอง น้อยมากจนหน้าตกใจเนอะ555 บางหน้าคือไม่มีคำที่ไม่รู้เลยค่ะ 


ตัวอย่างประกอบการตัดสินใจ+ชอบหน้านี้เลยแนบมาให้ชมค่ะ





เวลาที่ใช้ในการอ่าน: 15 เมษายน - 19 เมษายน 2561 / 5 วันค่าาา Amazing Thailand!!! 555555+ เพราะหนังสือสนุก ศัพท์ไม่ยาก และมีไม่ถึง 300 หน้าค่ะ




             ความจริงเนอร์สยังตั้งใจทำเป็นบันทึกไว้อ่านเองเหมือนเดิม แต่ถ้าใครหลงเข้ามาอ่านจนจบ ก็ขอบคุณมากๆ ค่ะ เจอกันเมื่อเนอร์สอ่านเล่มต่อไปจบเนอะ❤


9 ความคิดเห็น:

  1. Nice job! Nurse Keep up the good work You're on the right track

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. Thank you ka! I promise to keep on doing what's good. Thank you for always having my back.

      ลบ
  2. ระยะเวลาในการอ่านเร็วมากค่าาาา 😆 สุดยอดเลย เป็นคนที่ใจดีและใส่ใจความรู้สึกของคนอื่นมากเลย เขียนต่อไปเรื่อยๆนะคะ👍🏻

    ตอบลบ
  3. เรื่องการแกล้งในโรงเรียน เป็นเรื่องที่ก็มีในชีวิตจริง น่าสงสาร Hannah มากเลยนะคะ
    ชอบประโยคที่นำมามากเลยค่ะ ถ้าพูดดีไม่ได้ก็ควรเงียบไว้เนอะ น่าสงสารเขา 😢

    ตอบลบ
  4. ว่างทีไรก็มาอ่าน blog นี้ทุกที อ่านได้ทุกวันไม่เคยเบื่อ อยากทราบว่ามีเคล็ดลับอะไรถึงเขียนได้สุดยอดขนาดนี้ จะได้เอาไปใช้บ้าง 😁

    ตอบลบ
  5. เป็นคนที่ขยันมากเลย ขยันอ่านและขยันเขียนจริงๆค่ะ เลิศเลอเพอร์เฟิคมากค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คุณผู้อ่านใจดีจังเลยค่ะ คอมเม้นชมจนเราเขินไปหมดแล้ววว ขอบคุณมากๆสำหรับคอมเม้นนะคะ ทำให้เรามีกำลังใจรีวิวเล่มต่อๆไปมากขึ้นเยอะเลยค่ะ

      ลบ
    2. จะคอมเมนท์ต่อไปเรื่อยๆนะคะ

      ลบ
  6. ใช่แล้วค่ะนอกจากใจดีแล้วยังสวยด้วยนะคะ

    ตอบลบ