วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2562

All the Books I've Reviewed Before




    สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อครีวิวหนังสือภาษาอังกฤษของเนอร์สนะคะ หน้านี้จะเปรียบเสมือนสารบัญรวบรวมหนังสือที่เนอร์สเคยรีวิวไว้นะคะ ปัจจุบันเคยเขียนรีวิวไปแล้ว 9 เล่มด้วยกันค่ะ



จิ้มตรงชื่อเรื่องที่ต้องการอ่านได้เลยยยย 👇
























ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ💓






วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2562

English Book Review8: Bird Box


English Book Review8: Bird Box

รีวิวหนังสือ: มองอย่าให้เห็น



    สวัสดีค่าาา ยินดีต้อนรับเข้าสู่การรีวิวหนังสือภาษาอังกฤษเล่มที่ 8 ของเนอร์สนะคะ หายไปครึ่งปีกันเลยทีเดียว ตั้งแต่มหาวิทยาลัยเปิดเทอม เนอร์สก็แทบไม่ได้อ่านอย่างอื่นนอกจากชีทหรือสไลด์ที่เรียนเลย พอมีวันหยุดช่วงปีใหม่เลยขอสักเล่มให้หายคิดถึง ไปดูข้อมูลเบื้องต้นของเล่มนี้กันเลยค่ะ



Title:           Bird Box
ชื่อไทย:      มองอย่าให้เห็น
Author:      Josh Malerman
Category:   Horror/ Thriller
Pages:         381
Price:          ฿350.-
Store:          บูธ Asia Books @งานหนังสือ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์





เนอร์สซื้อปกภาพคุณ Sandra Bullock จากเวอร์ชั่นหนังของ Netflix มาค่ะ 



Rate / คะแนนเนื้อหา : 8.5 / 10

Reason: *ส่วนที่เป็นสีแดงมีสปอยล์นะคะ*


     ก่อนรีวิวเนอร์สขอเล่าพล็อตเรื่องคร่าวๆ ก่อนนะคะ   Malorie เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เธอต้องเลี้ยงเด็กชายและเด็กหญิงด้วยตัวคนเดียวมาตลอดระยะเวลา 4 ปีกว่า โดยเธอต้องเลี้ยงลูกให้อยู่ภายในบ้านที่ปิดทึบเท่านั้น ทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก เธอต้องสวมผ้าปิดตา เนื่องจากภายนอกมี "สิ่งมีชีวิต" บางอย่างที่เพียงแค่มอง ก็จะส่งผลให้คุณคลุ้มคลั่งและทำร้ายบุคคลรอบข้าง รวมถึงตัวคุณเอง ถ้าคุณเห็นมันแล้ว จุดจบมีเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือ "ความตาย" เท่านั้น


    เนอร์สชอบตั้งแต่อ่านคำโปรยหลังเล่มเลยค่ะ เนอร์สเป็นคนชอบหนังสือแนว Sci-fi/Thriller อยู่แล้ว ประกอบกับได้ยินมาว่า Netflix เอาเรื่องนี้ไปทำเป็นภาพยนตร์เรียบร้อย เนอร์สจึงหยิบไปจ่ายเงินแบบไม่ลังเลเลยค่ะ


    นอกจากพล็อตที่มีความน่าสนใจแล้ว เนอร์สคิดว่าอีกสิ่งที่คุณจอร์ชทำได้ดีคือการบรรยายค่ะ คุณจอร์ชใช้ภาษาอ่านง่ายมากกก ไม่ยืดเยื้อ กระชับ เรียบง่าย ชัดเจน ไม่ใช้คำฟุ่มเฟือย ทำให้ตอนอ่านไม่รู้สึกเบื่อ แถมยังอยากอ่านต่อไปเรื่อยๆ แทบวางไม่ลงเลยค่ะ บางช่วงลุ้นจนเผลอนั่งตัวเกร็ง บางครั้งก็เผลอกลั้นหายใจตอนอ่าน ลุ้นมากจริงๆ



    ฉากโปรดของเนอร์สที่รู้สึกชอบมาก เลือกแทบไม่ได้เลยค่ะ ที่อยู่ในใจคือ ตอน Malorie และเด็กๆ เจออุปสรรคต่างๆ ระหว่างพายเรือ  ฉากตักน้ำในตำนานของหนุ่ม Felix  ตอน Cherrly ให้อาหารนก  ตอน Malorie ปิดตาขับรถไปเอาของ และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลย คือคืนที่ Malorie คลอดลูกค่ะ น่ากลัวมากจริงๆ



   จุดเด่นของเรื่องนี้คือการใช้ภาษาเล่าเรื่องที่ทำให้นึกภาพตาม คิดตาม ลุ้นตามจนตัวโก่ง แถมยังมีจุดพีคหลายๆ จุดด้วยค่ะ เนอร์สประทับใจมากเลย แต่ส่วนพีคๆ คงเล่าให้ฟังไม่ได้เนอะ เดี๋ยวทุกท่านไปอ่านด้วยตัวเองแล้วจะหมดโอกาสลุ้น  หมดสนุกเอา


    อีกส่วนที่ชอบคือการวางลำดับเนื้อหาการเล่าเรื่องค่ะ เนอร์สชอบการเล่าเรื่องของคุณจอร์ชมาก เป็นการเล่าเรื่องสลับกันระหว่างพาร์ทปัจจุบันที่ Malorie กำลังพายเรือพาเด็กๆ หนีไปอยู่ที่อื่น กับพาร์ทอดีตตั้งแต่ตอนเจ้าสัตว์ประหลาดเริ่มระบาดใหม่ๆ เป็นการเขียนที่วางแผนดีมากเลยค่ะ คุณจอร์ชเปิดมาด้วยพาร์ทปัจจุบัน ต่อมาก็สลับไปเล่าตอนทุกอย่างเพิ่งเริ่มต้น จบบทนึงก็กลับไปบรรยายช่วงพายเรือต่อ แล้วสลับมาเล่าอดีตอีก ทำได้ดีทั้งสองพาร์ทเลยด้วย


    สุดท้ายนี้ เนอร์สชอบการพยายามตอบข้อสงสัยของผู้อ่านและการวางพล็อตอย่างแน่นหนาของคุณจอร์ชด้วยค่ะ ขณะอ่านเนอร์สก็เคยมีหลายคำถามผุดขึ้นมาในหัวเหมือนกัน แต่พออ่านไปเรื่อยๆ แล้ว คำถามส่วนใหญ่ก็ได้รับคำตอบจากเนื้อเรื่องหมดเลยยย



   หลายท่านคงนึกในใจแล้วว่ารีวิวดีขนาดนี้ ทำไมไม่ให้คะแนนเต็ม 55555 เหตุผลของเนอร์สคือมันมีบางฉากบางตอนที่เนอร์สมองว่าไปได้สุดมากกว่านี้ค่ะ บางฉากก็อยากให้บรรยายเพิ่มสักหน่อย มันดาร์กได้มากกว่านี้ มันอินได้มากกว่านี้ ในส่วนของตอนจบ เนอร์สคิดว่ามันดูจะตัดบทไปสักหน่อย และเนอร์สเองก็ยังอยากได้ข้อมูลของเจ้าสัตว์ประหลาดมากกว่านี้ด้วยค่ะ มันมาจากไหน? หน้าตา รูปร่างเป็นอย่างไร? มีเจตนาอะไร ทำไมถึงทำให้คนคลุ้มคลั่งได้? ยังรู้สึกค้างคาอยู่ค่ะ



    โดยรวมแล้วเนอร์สชอบหนังสือเล่มนี้นะคะ ไม่ผิดหวังที่ซื้อมาอ่าน ส่วนเวอร์ชั่นหนังเนอร์สยังไม่เคยดู เลยเปรียบเทียบไม่ถูกว่าหนังหรือหนังสือดีกว่า ใครเคยอ่าน ใครเคยดู มาคอมเม้นเล่าสู่กันฟังได้นะคะ💗



My Favourite Moment: Page 322



' Tom. I'm going to have to open my eyes. Talk to me. Please. tell me what to do. Tom, I'm going to have to open my eyes.'


     His voice comes from ahead. He sounds like the sun, the only light in all this darkness.


    The blindfold is pulled an inch farther from her face. The knot presses against the back of her head.


'Tom, I'm going to have to open my eyes.'




And, so.....she does



คะแนนความยากของภาษาที่ใช้: 4/10

Reason:

      สำหรับเนอร์ส คำศัพท์ไม่ยากมากนะคะ น่าจะอยู่ในระดับ Low-Intermediate ค่ะ ไวยากรณ์ การเรียงคำ การเรียงประโยคก็ไม่ซับซ้อนด้วย เข้าใจง่าย เนอร์สคิดว่าบทแรกๆ มีศัพท์ยากพอประมาณ แต่ยิ่งอ่านไปศัพท์ยิ่งง่ายขึ้นค่ะ ช่วงกลางๆ เรื่องไปคืออ่านแบบไม่หยุด ไม่สะดุด ไม่ติดขัดเลย หลังๆ ก็แทบจะไม่มีคำศัพท์ที่ไม่เคยเห็นเลยค่ะ


    ตัวอย่างศัพท์ยากนะคะ  abyss, meagre, zenith, mishmash, immolation, amalgamation, consensus ประมาณนี้ค่ะ แต่ปกติจะเป็นศัพท์ทั่วๆ ไปที่เราเคยเห็นผ่านตาเลยค่ะ ศัพท์ยาก ศัพท์แปลก ศัพท์เฉพาะมีน้อยมาก







     เนอร์สขอขอบคุณทุกท่านที่กดเข้ามาอ่านบล็อคนี้นะคะ และขอบคุณสำหรับความคิดเห็นด้วยค่ะ ท่านใดอยากพูดคุยกัน หรือมีหนังสือเล่มไหนอยากแนะนำให้เนอร์สอ่าน คอมเม้นด้านล่างได้เลยค่ะ เนอร์สอ่านทุกคอมเม้นเลยนะ แล้วเจอกันเมื่อเนอร์สอ่านเล่มต่อไปจบค่ะ สวัสดีค่ะ



วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2562

English Book Review7: To All The Boys I've Loved Before

English Book Review7: To All The Boys I've Loved Before

รีวิวหนังสือ: แด่...ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก 



    สวัสดีค่ะทุกท่าน💓  เนอร์สกลับมาเขียนรีวิวหนังสือแล้วค่ะ หลังจากห่างหายกันไปนานพอสมควรเลย เป็นช่วงเวลาแห่งการอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยเนอะ ตอนนี้เนอร์สมีที่เรียนเรียบร้อยแล้ว เลยกลับมาหาหนังสืออ่านเล่นและเขียนรีวิวต่อค่ะ


  มาดูข้อมูลของเล่มนี้กันก่อนเลยยย



Title:           To All The Boys I've Loved Before
ชื่อไทย:      แด่...ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก
Author:      Jenny Han
Category:   Young adult/ Romance
Pages:         355
Price:          ฿375.-
Store:          บูธ Asia Books @งานหนังสือ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์






เนอร์สเลือกซื้อปกนี้มากค่ะ ชอบทั้งภาพปกและรูปแบบตัวอักษรเลยยย




Rate / คะแนนเนื้อหา : 7.5 / 10
Reason: *ส่วนที่เป็นสีแดงมีสปอยล์นะคะ*


    เป็นเรื่องราวของ Lara Jean เด็กสาวไฮสคูลลูกครึ่งอเมริกัน-เกาหลีค่ะ ลาร่าใช้ชีวิตอยู่กับคุณพ่อ พี่สาว และน้องสาว คุณแม่เธอจากไปตั้งแต่เธอยังเด็ก เวลาที่ลาร่าแอบปลื้มใคร เธอจะชอบเขียนจดหมายบรรยายความรู้สึกที่มีต่อคนๆนั้น พร้อมจ่อหน้าซองถึงเขา แต่ไม่ได้ส่งให้เจ้าตัวโดยตรง เธอจะเก็บพวกมันไว้ในกล่องใส่หมวกที่แม่เคยให้ไว้แทนค่ะ แต่วันหนึ่งจดหมายเหล่านั้นกลับถูกส่งไปถึงผู้ชายที่ลาร่าเคยชอบทั้ง 5 คน! ชีวิตของลาร่าจึงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป



   เนอร์สชอบพล็อตของเรื่องนะคะ น่าสนใจประมาณนึงเลย ส่วนเรื่องการนำเสนอเรื่องในด้านต่างๆ คาร์แรคเตอร์ของตัวละคร ความสัมพันธ์แต่ละรูปแบบ เดี๋ยวเราจะมาดูทีละส่วนกันนน



   เรื่องนี้นำเสนอเรื่องผ่านตัวนางเอก เหมือนตัวลาร่าเป็นผู้เล่าค่ะ เนอร์สคิดว่าทำได้ดีนะคะ บรรยายไม่น่าเบื่อ ไม่ซับซ้อนมาก ค่อนข้างสั้น กระชับ เข้าใจง่าย แต่ก็มีจุดด้อยอยู่บ้างค่ะ (เป็นความเห็นส่วนตัวของเนอร์สนะ) จุดด้อยคือ ในเรื่องจะมีศัพท์แสลงพอประมาณเลยค่ะ แถมยังมีชื่อเสื้อผ้า อาหาร ขนมของบ้านเขาเยอะมากกก บางครั้งพอเราไม่เคยได้ยินมาก่อนก็จะนึกภาพตามไม่ออก อ่านแล้วไม่อินเท่าที่ควร เนอร์สเลยต้องคอยเสิร์ชหาภาพดูอยู่บ่อยๆค่ะ



   ส่วนคาร์แรคเตอร์ของตัวละครมีมิติดีค่ะ เนอร์สคิดว่าตัวลาร่ายังมีการกระทำหลายอย่างที่ไม่ make sense นะ มีหลายครั้งที่เนอร์สรู้สึกหงุดหงิด อึดอัด ไม่เข้าใจการกระทำของตัวละคร แต่ถ้ามองในมุมกลับกัน นี่อาจจะเป็นความตั้งใจของคนเขียนก็ได้ค่ะที่อยากจะนำเสนอตัวนางเอกออกมาในทางนี้ ลาร่าอายุ 16 เอง กำลังเป็นสาวเลย อาจเป็นเรื่องปกติของคนในช่วงวัยนี้ เห็นได้ชัดว่าหลายครั้งก่อนจะพูดหรือทำอะไรเธอก็ไม่ได้ไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน จนสุดท้ายก็ทำให้ตัวเองต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก


   แต่เนอร์สชอบในส่วนของการบรรยายเรื่องครอบครัวของลาร่านะคะ เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากกก และถ้าใครมีพี่น้องจะรู้สึกเลยว่าคุณเจนนี่เขียนออกมาได้ตรงชีวิตจริงสุดๆ มีหลายฉากเลยค่ะที่เนอร์สอ่านแล้วรู้สึกว่าใช่มาก ตัวลาร่าเป็นลูกคนกลางจะค่อนข้างกดดัน ตรงที่พี่สาวคนโตเพอร์เฟ็กต์มาก เก่งทุกด้าน ทั้งการเรียนและงานในบ้าน ลาร่าเลยอยากจะเป็นแบบพี่สาวบ้างเพื่อที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้น้องด้วย ถือว่านำเสมอประเด็นในครอบครัวได้สมบูรณ์แบบสำหรับเนอร์สค่ะ ไม่มีอะไรจะติในส่วนนี้



   มาเรื่องความรักกันบ้าง ถ้าอ่านแบบสบายๆไม่จ้องจับผิดอะไร ก็นับว่าเขียนออกมาได้น่ารักดีค่ะ ช่วงที่ลาร่าอยู่กับปีเตอร์น่ารักมากๆ แต่ถ้าลองคิดลึกๆในเรื่องของที่มาที่ไปของการกระทำต่างๆ พื้นเพนิสัยของตัวละคร จะรู้สึกว่ามีบางช่วงที่ไม่สมเหตุสมผลและน่าสับสนอยู่หน่อยๆค่ะ ตัวละครหลักชอบทำให้ปัญหาที่มีอยู่แล้วมันแก้ยากยิ่งกว่าเดิมตลอดเวลาเลย โดยเฉพาะลาร่าที่เก่งที่สุดในเรื่องการหนีปัญหา พออ่านไปถึงตอนเกือบจบแล้ว เนอร์สก็ไม่โอเคกับการกระทำของปีเตอร์ด้วยค่ะ ทำไมไม่คุยปรับความเข้าใจกันให้มันจบๆไปน้อออ



   ดังนั้น  2.5 คะแนนที่เนอร์สหักไป ก็คือเรื่องการกระทำที่ย้อนแย้งของตัวละคร และการบรรยายบางส่วนที่เกินความจำเป็นค่ะ เนอร์สรู้สึกว่าบางฉากคุณเจนนี่ใส่รายละเอียดมากเกินไปหน่อย โดยที่มันไม่ได้มีความจำเป็นมากขนาดนั้น ถ้าอ่านไม่ทนอาจรู้สึกเบื่อเอาได้ค่ะ




    โดยสรุปแล้ว สำหรับแฟนหนังสือแนว Young Adult/ Romantic-Comedy เนอร์สก็เชียร์ให้ลองอ่านนะคะ อ่านเล่นๆเพลินๆ แก้เบื่อ ก็ทำให้ยิ้มตามได้อยู่เหมือนกัน แต่หนังสือเล่มนี้ไม่ได้จบสมบูรณ์นะคะ จบค้างไว้ให้ไปอ่านในภาคต่อค่ะ ชื่อเรื่องว่า P.S. I Still Love You เนอร์สยังไม่ได้ซื้อมาอ่านเลยค่ะ ถ้ามีโอกาสได้อ่านเมื่อไหร่จะมาเขียนรีวิวเล่าสู่กันฟังนะคะ







My Favourite Moment: Chapter 41, Page 223


'If people knew you, they would love you.'  He sounds so matter-of-fact.

    

   Josh, you broke my heart. And you're a liar. 


    Because you know me. You know me better than almost anybody, and you don't love me :(






คะแนนความยากของภาษาที่ใช้: 4.5/10
Reason:


   คุณเจนนี่ใช้ภาษาในการบรรยายไม่ค่อยยากนะคะ แต่ปัญหาอาจอยู่ที่ศัพท์แสลงที่แทรกอยู่ในบทสนทนาค่ะ เพราะตัวลาร่า พี่สาว น้องสาว แฟน และเพื่อนๆของเธออยู่ในช่วงวัยรุ่นกันหมดเลย การพูดคุยก็มักจะใช้ศัพท์แสลงหรือสำนวนบ่อยๆ อาจต้องหยุดอ่านไปเสิร์ชหาความหมายบ้างนิดนึงค่ะ 


    ถ้าใครหาคำไหนไม่เจอหรือไม่เข้าใจจุดไหนสามารถคอมเม้นถามเนอร์สได้นะคะ อีกจุดที่ยากคือคำศัพท์เกี่ยวกับเสื้อผ้า อาหาร และขนมค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารกับขนมที่บ้านเราไม่มีหรือไม่คุ้นเคย ก็อาจจะงงกันสักหน่อย แต่ Google ช่วยได้เสมอ เนอร์สแนะนำให้เสิร์ชภาพดูเลยค่ะ



    ระดับความยากของคำศัพท์น่าจะอยู่ช่วง Intermediate ค่ะ ตัวอย่างศัพท์ยากนะคะ เช่น ruefully, spiel, wily, jovially, serene, placidly, gullible, fervently ในหนึ่งหน้าเนอร์สจะมีศัพท์ที่ไม่รู้ประมาณ 2-3 คำค่ะ 







    ขอบคุณทุกท่านที่กดเข้ามาอ่านนะคะ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อยเนอะ ไว้พบกันใหม่เมื่อเนอร์สอ่านเล่มต่อไปจบนะคะ สวัสดีค่าาา