English Book Review4: Love, Simon
รีวิวหนังสือ: บันทึกลับ ฉบับไซม่อน
สวัสดีค่า เนอร์สเองค่ะ กลับมารีวิวหนังสือเล่มที่ 4 แล้ววว เป็นเล่มแรกที่อ่านจบตั้งแต่เปิดเทอมมาค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันเลยเนอะ :)
มาดูข้อมูลเบื้องต้นของหนังสือกันก่อนนน
Title: Love, Simon
ชื่อไทย: บันทึกลับ ฉบับไซม่อน
Author: Becky Albertall
Category: Romantic/ Drama
Pages: 303
Price: £7.99 / ฿350.-
Store: ร้าน Asia books @The Mall Bang Kae ร้านอยู่ชั้น 3 เป็นบูธเล็กๆ ค่ะ ถ้าเนอร์สไม่ถามเจ้าหน้าที่ก็คงหาไม่เจอแน่ๆ ทีแรกนึกว่าไม่มีด้วยซ้ำ ใครอยู่แถวบางแคไปช่วยอุดหนุนกันเยอะๆ นะคะ คนซื้อคนอ่านน้อย เนอร์สเสียวร้านปิดมากกก T T
![]() |
Simon, I would like to take you anywhere. (เนอร์สซื้อปกนี้มาค่ะ) |
Rate / คะแนนเนื้อหา : 9.5 / 10
Reason : *ส่วนที่เป็นสีแดงมีสปอยล์นะจ๊ะ*
ไซม่อนมาพร้อมกับคะแนนที่สูงลิ่วเลยยย ซึ่งคะแนนนี้เนอร์สเต็มใจให้มากๆ เลยค่ะ เพราะหนังสือเขาดีจริงๆ โทนของเล่มนี้จะเป็นแนวโรแมนติค ดราม่านะคะ แต่ทุกคนไม่ต้องกลัวเสียน้ำตาาา ในหนังเศร้ากว่าอีกค่ะ
สำหรับเรื่องย่อนะคะ Love, Simon เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มไฮสคูลคนหนึ่ง ซึ่งค้นพบว่าตัวเองเป็นเกย์ แต่เขาไม่เคยบอกใครเลย จนวันหนึ่งเขาได้ไปพบกับกลอนที่ได้บอกเล่าความอึดอัดของการเป็นเกย์ผ่านตัวอักษร ซึ่งถูกโพสต์โดยบัญชีลึกลับที่ใช้ชื่อว่า Blue ไซม่อนรู้สึกว่าเขาอยากลองคุยกับคนๆ นี้มาก เขาจึงสมัครอีเมลล์ใหม่และทักไปคุยกับ Blue ทั้งสองคนคุยกันเป็นเวลานานหลายเดือน ความผูกพันธ์ของไซม่อนที่มีต่อบลูนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความอยากจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของบลูก็เช่นกัน
เนอร์สชอบการเล่าเรื่องนะคะ ชอบองค์ประกอบ ชอบโทนของหนังสือมากๆ เป็นการบรรยายที่ทำให้เราคิดถึงบรรยากาศโรงเรียนมัธยมของเรา ไม่ได้มีแต่เรื่องดี ไม่ได้สวยงามไปซะทุกอย่าง แต่ก็น่าจดจำ หนังสือไม่ได้เน้นแค่เรื่องความรักเพศเดียวกัน แต่ยังสอนเรื่องครอบครัว ครูอาจารย์ มิตรภาพเพื่อนฝูงอีกด้วย ปฏิกิริยาของพ่อ แม่ พี่ น้อง ครู และเพื่อนๆ แต่ละคนตอนรู้ว่าไซม่อนเป็นเกย์นั้นน่าสนใจมากๆ
ขอยอมรับเลยค่ะว่าช่วงแรกที่อ่าน เนอร์สเผลอคิดว่านิยายเรื่องนี้ค่อนข้างน่าเบื่อด้วยซ้ำ อาจจะเพราะการดำเนินเรื่องทีค่อนข้างเรื่อยๆ ไม่รีบไม่ร้อน และภาษาที่ไม่ใช่ภาษาแม่เรา ศัพท์ไม่รู้นิดหน่อย ศัพท์แสลงวัยรุ่นเล็กน้อย ทำให้เราอยากจะข้ามหรือหยุดพักบ้าง
แต่ แต่ แต่!!! ปรากฎว่ายิ่งอ่านไปก็ยิ่งสนุกค่ะ ลุ้นขึ้นเรื่อยๆ ตื่นเต้นขึ้น เข้มข้นขึ้น เนอร์สลุ้นไปกับไซม่อน จินตนาการไปกับไซ่ม่อนเลยว่าบลูจะเป็นใครได้บ้าง ส่วนบลูในหนังสือละมุนมากค่าาา คือละมุนผ่านภาษาผ่านตัวอักษร จนเราสัมผัสได้เลยว่าคนๆ นี้ต้องน่ารักและใจดีมากแน่ๆ ไม่แปลกเลยที่ไซม่อนจะหลงรัก ตอนช่วงหลังๆ ก็ไม่ได้มีการบรรยายหวือหวาอะไรนะคะ ตอนเปิดตัวบลูก็ไม่ได้มีอะไรมาก แต่ภาษาเบาๆ แบบนั้นก็ทำเนอร์สเขินสุดๆ แล้วค่ะ
ใครสนับสนุน LGBT อย่าพลาดนะคะ ไปลองอ่านกันเถอะค่ะ
หรือว่า Straight ชายจริงหญิงแท้คนไหนที่สนใจก็ไปลองได้นะคะ เปิดใจกว้างๆ แล้วมาอ่านหนังสือกันนน
คำถามยอดฮิต
หนังกับหนังสืออะไรสนุกกว่านะ?
- เนอร์สอ่านหนังสือจบแล้วค่อยดูหนังนะคะ บอกเลยว่าหนังสือกับหนังเนื้อเรื่องต่างกันพอสมควรเลยค่ะ ทั้งเรื่องคนที่ไซม่อนสงสัยว่าเป็นบลู การกระทำของบลูตัวจริง การโดนแบล็คเมลล์ ความสัมพันธ์กับลีอา ฉากเปิดตัวบลู หรือไทม์ไลน์ ช่วงเวลาการเกิดเหตุการณ์ต่างๆ แตกต่างกันทั้งหมดดด
โดยความเห็นส่วนตัวแล้ว เนอร์สชอบหนังสือมากกว่าค่ะ แต่ตัวหนังก็ดีนะคะ ใครยังไม่ดู เนอร์สก็แนะนำให้ไปลองดูค่ะ โทนหนังน่ารักมากกก จะหวาน จะเศร้า จะซึ้งก็ได้ เนอร์สนี่ไม่ถึงขั้นร้องไห้ แต่ก็มีอินน้ำตาซึม ที่เลือกชอบหนังสือมากกว่า เพราะว่ามันบรรยายความรู้สึกออกมาได้ละเอียดลึกซึ้งกว่าค่ะ อย่างตอนใกล้จบพอรู้ว่าบลูเป็นใคร ในหนังสือก็ยังมีบรรยายต่อให้เราได้เขินกัน แต่ตัวหนังมีเพิ่มมานิ๊ดดดนึง แล้วก็ตัดจบไป เนอร์สเลยอินหนังสือมากกว่าค่ะ
My Favourite Moment: Chapter32, Page 270
We're quiet for a moment.
"And I can't believe you rode the Tilt-A-Whirl for me"
"I must really like you," he says.
So I lean in toward him, and my heart is in my throat.
"I want to hold your hand,"
I say softly. Because I don't know if he's out.
"So hold it," he says.
And I do💕
น่ารักๆๆๆๆๆ น่ารักมากกก บลูน่ารักกก อยากจะจับก็จับสิ แงงงงง
คะแนนความยากของภาษาที่ใช้: 4/10
Reason:
ภาษาไม่ยากมากค่า แต่ก็ต้องตั้งใจอ่านนิดนึง เพราะว่ามีศัพท์แสลงหรือศัพท์หน้าตาแปลกๆ พอประมาณเหมือนกัน ประกอบกับชื่อเพลง ชื่อนักร้องเก่าๆ ของบ้านเขาก็ถูกหยิบยกมาพูดถึงบ่อยมากในเรื่องนี้ เราอ่านแล้วไม่รู้จักก็จะงงๆ อ่ะเนอะ แต่ถ้าเข้าใจเนื้อหาหลักก็โอเคแล้วค่ะ
คำศัพท์โดยรวมหลักๆ แล้วอยู่ในระดับ Intermediate ค่ะ ไม่ต้องกลัวไม่เข้าใจนะคะ เรามีดิชชันนารี มีกูลเกิ้ลแปลภาษา ถ้าไม่รู้ก็เปิดก็เสิร์ชเลยยย หรือถ้าไม่ไหวจริงๆ ยังไงก็ยังมีเนอร์สนะคะ มาคอมเม้นถามได้ในบล็อกเลยค่ะ ยินดีช่วยเหลือนะคะ
ตัวอย่างศัพท์ยาก : giddy, rein, antsy, redundant, jittery, fuzzy, relocate, suburb, pretzel, seismic ประมาณนี้ค่ะ
โพสอิทที่ยื่นๆ ออกมาคือจำนวนหน้าที่เนอร์สประทับใจค่ะ555 อยากให้ทุกคนลองอ่านนะคะ |
สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเหมือนเดิมนะคะ เนอร์สตั้งใจทำบล็อกบันทึกไว้อ่านเอง แต่มีคนเข้ามาอ่านก็ดีใจค่ะ ไว้พบกันใหม่เมื่อเนอร์สอ่านเล่มหน้าจบนะคะ❤